จ้างพนักงานประจำ vs จ้างพนักงาน Outsource แบบไหนที่เหมาะกับธุรกิจคุณ

จ้างพนักงาน Outsource

การเลือกรูปแบบการจ้างพนักงาน มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากการเลือกรูปแบบการจ้างพนักงานที่เหมาะสม จะช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองต่อความต้องการ และ เป้าหมายของธุรกิจได้ ช่วยให้บริษัทสามารถจัดการทรัพยากรมนุษย์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจ  อีกทั้งยังช่วยลดเวลา และ ความล่าช้าในกระบวนการสร้างทีมงาน และ การดำเนินงานที่ต้องการ ดังนั้นธุรกิจก็ควรเลือกรูปแบบการจ้างพนักงาน ให้เหมาะสมกับธุรกิจมากที่สุด ก่อนอื่นเราต้องมาดูกันก่อนว่า การจ้างพนักงานประจำกับการ จ้างพนักงาน  Outsource แตกต่างกันอย่างไร

ความแตกต่างของการจ้างพนักงานประจำ และ การ จ้างพนักงาน Outsource อาทิ :

การควบคุมและการจัดการ :

การจ้างพนักงานประจำ : บริษัทต้องทำการควบคุม และ จัดการกับพนักงานที่เป็นของตนเอง ตั้งแต่กระบวนการสรรหา การฝึกอบรม และ การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของพนักงาน โดยมีความยากในการควบคุมคุณภาพของพนักงานที่ได้มา

การจ้างพนักงาน Outsource : บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพของพนักงานตามแบบที่ธุรกิจต้องการได้ โดยการมอบหมายงานไปยังบริษัทนอก ที่มีความเชี่ยวชาญในงานนั้น ๆ และมีการควบคุมน้อยกว่า เนื่องจากบริษัทที่รับเหมา จะรับผิดชอบต่องาน และ ผลลัพธ์ที่ส่งมอบมาให้ทั้งหมด

ค่าใช้จ่าย :

การจ้างพนักงานประจำ : บริษัทต้องรับผิดชอบค่าจ้างพนักงานทุกคน รวมถึงค่าประกันสุขภาพ บำนาญ และ สวัสดิการอื่น ๆ

การ จ้างพนักงาน Outsource : บริษัทจะจ่ายค่าบริการตามสัญญา อ้างอิงกับบริษัทที่รับเหมา ซึ่งสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามงบประมาณที่ตั้งไว้ ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่คงที่ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆเพิ่มเติม

ความยืดหยุ่น :

การจ้างพนักงานประจำ : ในการปรับขนาดของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มหรือลดพนักงานจะทำได้ยาก เนื่องจากมีขั้นตอนและกระบวนการที่มาก อีกทั้งบริษัทยังต้องรับผิดชอบในการจ่ายค่าจ้างและสวัสดิการต่าง ๆ แม้ในสถานการณ์ที่ธุรกิจต้องการใช้พนักงานแค่บางตำแหน่งในช่วงเวลานั้น

การจ้างพนักงานแบบ Outsource : บริษัทสามารถปรับขนาดทีมงานได้อย่างยืดหยุ่น ตามความต้องการ ซึ่งบริษัท Outsource สามารถเข้ามาช่วยวางแผนกลยุทธ์ให้ธุรกิจคุณได้ เพื่อรองรับแผนการระยะยาวของธุรกิจคุณ

ความเชี่ยวชาญ :

การจ้างพนักงานประจำ : บริษัทจำเป็นต้องจัดตั้งทีมงานที่มีคุณภาพเป็นของตัวเอง ซึ่งต้องมีการพัฒนาทีมงานให้มีความเชี่ยวชาญก่อน เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลของผู้สมัครที่อาจมีข้อจำกัดในการเข้าถึง

การจ้างพนักงานแบบ Outsource : จะได้รับการบริการจากบริษัท ที่มีความเชี่ยวชาญในงานเฉพาะด้านแบบมืออาชีพ และเรามีความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลผู้สมัครได้กว้างกว่า พนักงานจะผ่านการฝึกอบรม และผ่านการคัดสรรจากบริษัท Outsource เพื่อมาส่งมอบให้ธุรกิจคุณ ทำให้มีผลต่อคุณภาพ และ ประสิทธิภาพของงานให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้า

ความรับผิดชอบต่อผลการดำเนินงาน :

การจ้างพนักงานประจำ : บริษัทต้องรับผิดชอบต่อผลการดำเนินงานของทีมงานตนเอง รวมถึงต้องพัฒนา และ ปรับปรุงผลการดำเนินงานตามความต้องการของธุรกิจ

การจ้างพนักงานแบบ Outsource : บริษัทที่รับเหมา ต้องรับผิดชอบต่อผลการดำเนินงานตามสัญญา และ มีความรับผิดชอบต่อบริการที่ส่งมอบมา โดยบริษัทสามารถกำหนดตัวชี้วัดและการวัดผลได้อย่างชัดเจน ซึ่งเราสามารถปรับปรุงและพัฒนาพนักงานให้เป็นไปตามที่ต้องการได้

ข้อจำกัดของการจ้างพนักงานประจำ

ค่าใช้จ่ายและความรับผิดชอบทางการบริหาร :

การจ้างพนักงานประจำต้องรับผิดชอบต่อค่าจ้าง และ สวัสดิการของพนักงานทั้งหมด รวมถึงค่าประกันสุขภาพ ค่าเบี้ยประกันชีวิต การจ่ายเงินบำนาญ และสวัสดิการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ความยืดหยุ่นในการจัดการทีมงาน :

บริษัทจะต้องรับผิดชอบในการจัดการ และ ดูแลทีมงานในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการจัดการประสิทธิภาพ การจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น หรือการพัฒนาทักษะ และ ความรู้ของพนักงาน

การเชื่อมโยงทางกฎหมาย :

การจ้างพนักงานประจำ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการจ้างงาน เช่น การปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน การจ่ายค่าจ้างตามกฎหมาย การจ่ายภาษี และข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ความยากลำบากในการปรับขนาดทีมงาน :

บริษัทอาจมีความยากลำบากในการปรับขนาดทีมงาน ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจ เนื่องจากต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่อพนักงานที่มีอยู่แล้ว และ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง

ธุรกิจแบบไหนที่ควร จ้างพนักงาน Outsource

ในการจ้างพนักงานแบบ Outsource อาจมีลักษณะเฉพาะตามความต้องการ และ เป้าหมายของธุรกิจนั้น ๆ ซึ่งอาจแตกต่างกันตามความต้องการ อาทิ:

ธุรกิจที่มีงานพิเศษหรือโปรเจกต์ชั่วคราว : บริษัทที่มีงานพิเศษ หรือ โปรเจกต์ชั่วคราวที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำอาจพบว่า การจ้างพนักงานแบบ Outsource เป็นทางเลือกที่ดี เพื่อให้สามารถเรียกใช้ความชำนาญ และ ทรัพยากรที่ต้องการในขณะที่มีงานพิเศษเกิดขึ้น โดยไม่ต้องดูแลรับผิดชอบทีมงานในระยะยาว

ธุรกิจที่มีความต้องการเชี่ยวชาญพิเศษ : บางธุรกิจอาจต้องการความเชี่ยวชาญ ที่เฉพาะเจาะจงในงานหนึ่ง ๆ เพื่อช่วยให้สามารถแข่งขันได้ดีขึ้น ในกรณีนี้การจ้างพนักงานแบบ Outsource ที่มีความเชี่ยวชาญในงานที่กำลังต้องการ จะช่วยให้ธุรกิจมีความสามารถในด้านนั้นได้

ธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่น : บริษัทที่ต้องการความยืดหยุ่น ในการจัดการทรัพยากรมนุษย์ และ ทีมงาน โดยไม่ต้องรับผิดชอบต่อค่าจ้างและสวัสดิการในระยะยาว อาจพบว่าการจ้างพนักงานแบบ Outsource เป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากสามารถปรับขนาดทีมงานได้อย่างยืดหยุ่น ตามความต้องการของธุรกิจ

ธุรกิจที่ต้องการลดค่าใช้จ่าย : บริษัทที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน โดยไม่ต้องลดคุณภาพของงาน อาจพบว่าการจ้างพนักงานแบบ Outsource ช่วยให้สามารถควบคุมค่าใช้จ่าย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้งานพนักงานแบบ Outsource นั้นไม่ใช่เพียงแค่การลดค่าใช้จ่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความยืดหยุ่น และ เชี่ยวชาญในธุรกิจในสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เมื่อพิจารณาเลือกวิธีการจ้างพนักงาน การจ้างพนักงานประจำ มักเป็นการตั้งทีมงานภายในบริษัทโดยตรง ซึ่งเสนอความคุ้มค่า และ ความมั่นใจในการควบคุมและการบริหารจัดการ ในขณะที่การจ้างพนักงานแบบ Outsource มักจะพิจารณาการนำความเชี่ยวชาญจากบริษัทภายนอก เข้ามาใช้บริการ ซึ่งสามารถช่วยลดความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายในบางกรณี

แน่นอนว่า การเลือกใช้วิธีการจ้างพนักงาน ขึ้นอยู่กับความต้องการ และ วัตถุประสงค์ของธุรกิจแต่ละราย และการพิจารณาข้อดี ข้อเสีย ของแต่ละวิธี จะช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมีสมารถ และ เหมาะสมต่อสถานการณ์ของธุรกิจนั้น ๆ อย่างแม่นยำ

สอบถามข้อมูล