Mega Trend เมื่อ “เทรนด์แรงงาน + เทคโนโลยี” กำลังเปลี่ยนเกมของอุตสาหกรรมจัดหาพนักงานและบริหารแรงงานแบบ Outsource อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในอีก 3–5 ปีข้างหน้า จะมีเทรนด์หลัก ๆ ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจและโครงสร้างการบริหารพนักงาน ดังนี้
Mega Trend ในอนาคตเกี่ยวกับการบริหารจัดการพนักงาน
1) Mega Trend ด้านแรงงาน
- Skills-based hiring: โฟกัส “ทักษะ” มากกว่าปริญญา/ตำแหน่งเดิม มีการประเมิน Skill Gap และอัปสกิลแบบต่อเนื่อง (microlearning, nanodegree)
- Hybrid & Distributed Workforce: โครงสร้างทีมแบบผสม On-site/Remote/Field ต้องการระบบติดตามผลงานและชั่วโมงทำงานที่โปร่งใส
- Gigification ในองค์กรใหญ่: โปรเจกต์สั้น ๆ /งานเฉพาะทาง ใช้ Talent Pool แบบ on-demand เชื่อมผ่านแพลตฟอร์มกลาง
- Outcome-based SLA: จาก “จำนวนนัดสัมภาษณ์/จำนวนหัว” ไปสู่ “คุณภาพ-ความเร็ว-Retention-ผลลัพธ์ธุรกิจ” เป็นตัวชี้วัดหลัก
- EX (Employee Experience) เป็นหัวใจ: การดูแลประสบการณ์พนักงาน outsource ให้รู้สึกเป็น “คนขององค์กร” เพื่อลด Turnover
2) เทคโนโลยีที่จะเห็นใช้จริงมากขึ้น
- AI Talent Matching & Sourcing Copilot
- ใช้ LLM/AI คัด/สรุปเรซูเม่, จับคู่สกิลกับ JD, แนะนำผู้สมัคร “คล้ายกัน” อัตโนมัติ
- Programmatic Job Ads ซื้อสื่อรับสมัครแบบอัตโนมัติและปรับงบตามประสิทธิภาพ
- ใช้ LLM/AI คัด/สรุปเรซูเม่, จับคู่สกิลกับ JD, แนะนำผู้สมัคร “คล้ายกัน” อัตโนมัติ
- Talent CRM & Community
- สร้างฐานผู้สมัครที่อุ่น (warm pipeline), รัน nurture journey อัตโนมัติ, จัดกิจกรรม re-engage
- Workforce Analytics & Predictive Scheduling
- แดชบอร์ดเวลาจริง (เวลาทำงาน, อัตราขาด/ลา, Productivity, Cost-per-hire, Time-to-fill) + คาดการณ์กำลังคนล่วงหน้า
- Digital Onboarding & Compliance
- e-KYC / e-Signature, Digital Credential & Skills Passport, ตรวจประวัติอัตโนมัติ, PDPA-by-design
- RPA/Automation ฝั่ง Back-office
- อัตโนมัติงานซ้ำ ๆ: ออกสัญญา, เบิก OT, ใบกำกับภาษี, กระทบยอด, แจ้งเตือนเอกสารหมดอายุ
- Field Workforce Tech
- แอปพนักงาน: ลงเวลา GPS/Face ID (พร้อมการยินยอม), แจ้งงาน/รับงาน, E-learning, Ticket HR
- IoT เบื้องต้นสำหรับงานภาคสนาม (เช็คอินพื้นที่เสี่ยง, อุปกรณ์ความปลอดภัย)
- แอปพนักงาน: ลงเวลา GPS/Face ID (พร้อมการยินยอม), แจ้งงาน/รับงาน, E-learning, Ticket HR
- QualityOps สำหรับงานบริการ
- เครื่องมือ Audit หน้างาน, Checklist ดิจิทัล, รูป/วิดีโอหลักฐาน, คะแนนคุณภาพรายสาขาแบบเรียลไทม์
- เครื่องมือ Audit หน้างาน, Checklist ดิจิทัล, รูป/วิดีโอหลักฐาน, คะแนนคุณภาพรายสาขาแบบเรียลไทม์
3) โมเดลการให้บริการที่เปลี่ยนไป
- Consultative Outsourcing: ไม่ได้ขาย “คน” อย่างเดียว แต่ขาย “กระบวนการ+เทคโนโลยี+ข้อมูลเชิงลึก”
- Co-managed Team / BOT (Build-Operate-Transfer): ตั้งทีมงานและกระบวนการให้ลูกค้า ก่อนโอนกลับเมื่อพร้อม
- Flexible Contracting: สัญญายืดหยุ่น (ปรับจำนวนหัว/สกิล/กะเวลา) + pricing แบบผสม (fixed + performance bonus)
- MSP + Multi-vendor Orchestration: บริหารหลายซัพพลายเออร์ผ่านระบบเดียว พร้อมเงื่อนไขข้อมูลตามมาตรฐาน
4) กฎหมาย/ความเสี่ยง (ในประเทศไทย)
- PDPA & Data Governance: การจัดการข้อมูลผู้สมัคร/พนักงาน, การยินยอม (Consent), การเก็บใบหน้า/พิกัดอย่างโปร่งใส
- แรงงานสัมพันธ์/สวัสดิการขั้นต่ำ: ความเท่าเทียมสวัสดิการพื้นฐานระหว่างพนักงาน outsource กับ in-house ลดความเสี่ยงข้อพิพาท
- ความปลอดภัย/อาชีวอนามัย: EHS training ดิจิทัล, e-Work Permit สำหรับงานเสี่ยง/พื้นที่ปิด (confined space)
- ภาษี/เอกสารอิเล็กทรอนิกส์: e-Tax Invoice & e-Withholding ครบถ้วน ตรวจสอบได้
5) การใช้ข้อมูล (Data-Driven HR)
- ระบบ HR Analytics จะกลายเป็นเครื่องมือหลักในการตัดสินใจ เช่น การคาดการณ์การลาออก, วิเคราะห์ Productivity, หรือวัดประสิทธิภาพโครงการจ้าง Outsource
- บริษัทที่สามารถ “ใช้ข้อมูลจริงอธิบาย ROI ของแรงงานได้” จะมีโอกาสชนะในตลาด B2B มากขึ้น
6) การเติบโตของ “Flexible Contract” และ “Workforce as a Service”
- แนวโน้มองค์กรไม่อยากผูกพันระยะยาว แต่ต้องการความยืดหยุ่นในการปรับจำนวนพนักงาน
- Outsource Model จะถูกออกแบบให้ “ปรับจำนวนคนตามงานได้รายเดือน”
- จะเห็นบริการใหม่ ๆ เช่น “On-demand Workforce”, “Project-based Hiring”, หรือ “BOT (Build–Operate–Transfer)”
Mega Trend ยุค Workforce Transformation ที่เปลี่ยน เป็น “คนกับ AI ทำงานร่วมกัน”
ภาพรวม: AI ไม่ได้ “แทนที่” คน แต่ “เปลี่ยนบทบาทของคน”
AI จะไม่เข้ามาแย่งงานทั้งหมดในทันที แต่จะเข้ามา “ทำงานซ้ำ ๆ แทนมนุษย์” และผลักให้พนักงานต้อง “เพิ่มคุณค่าเชิงคิด วิเคราะห์ หรือสร้างสรรค์” มากขึ้น องค์กรจึงต้อง Re-skill / Up-skill เพื่อเปลี่ยนคนจาก “Operator” → “AI Supervisor / Analyst / Decision Maker”
กลุ่มอุตสาหกรรมที่ AI จะส่งผลเร็วที่สุด
| อุตสาหกรรม | ลักษณะผลกระทบ | ตัวอย่าง |
| BPO / Outsource Services | งานธุรการและ Contact Center จะถูกแทนด้วย Chatbot, RPA | ศูนย์บริการลูกค้า, งานเอกสารราชการ |
| การเงิน – ธนาคาร – ประกันภัย | AI ทำ Credit Scoring, Fraud Detection, วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า | พนักงานสินเชื่อ, พนักงานตรวจสอบเอกสาร |
| โลจิสติกส์ – ขนส่ง | ระบบ AI ใช้วางแผนเส้นทาง, ตรวจสภาพรถ, บริหารสต๊อก | เจ้าหน้าที่ควบคุมขนส่ง, Dispatcher |
| การผลิต (Manufacturing) | หุ่นยนต์อัตโนมัติ + Vision AI ตรวจคุณภาพสินค้า | QC Inspector, Operator |
| Retail / E-commerce | Chatbot + ระบบแนะนำสินค้า (Recommendation Engine) | พนักงานขายออนไลน์, ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ |
| IT / Digital | AI Code Generator, Test Automation | Programmer ระดับ Junior, Tester |
กลุ่มงานที่ AI จะเข้ามาแทนที่ได้มากที่สุด
งานที่เป็น Routine & Rule-based (งานที่มีขั้นตอนชัดเจน)
ผลกระทบสูงสุด (แทนที่ได้เกิน 70%)
- เจ้าหน้าที่เอกสาร / พนักงานธุรการ (Document & Data Entry)
→ ใช้ RPA + OCR ทำงานแทน เช่น ออกใบแจ้งหนี้, กรอกข้อมูล, ตรวจเอกสาร - เจ้าหน้าที่ Call Center / Customer Service ขั้นต้น
→ ใช้ Chatbot + Voicebot ตอบคำถามซ้ำ ๆ ตลอด 24 ชม. - เจ้าหน้าที่บัญชีเบื้องต้น / ตรวจสอบเอกสารทางการเงิน
→ AI ทำ Reconciliation, ตรวจผิดพลาด, วิเคราะห์แนวโน้มค่าใช้จ่าย - พนักงานฝ่ายบุคคล (HR Admin)
→ ระบบ HR Automation ทำ Payroll, Attendance, และการแจ้งลาแทนคนได้ - เจ้าหน้าที่สรรหา (Recruiter)
→ AI Resume Screening / Matching / Scheduling แทนงานคัดกรองเบื้องต้น
กลุ่มงานที่ AI จะ “ช่วยเสริม” ไม่ใช่ “แทนที่”
ผลกระทบเชิงบวก (AI เป็นผู้ช่วย)
- นักการตลาด / นักวิเคราะห์ข้อมูล (Marketing & Data Analyst)
→ ใช้ AI วิเคราะห์เทรนด์ลูกค้า, สร้างคอนเทนต์, ทำ Predictive Model - ฝ่ายบุคคล (HR Business Partner / Talent Development)
→ ใช้ AI วิเคราะห์ Engagement, ประสิทธิภาพ, ความเสี่ยงลาออก - Project Manager / Consultant / Strategist
→ ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและจำลองสถานการณ์ - Designer / Creator / Writer / Video Editor
→ Generative AI ช่วยสร้างภาพ วิดีโอ สคริปต์ เพื่อลดเวลาในการผลิต - ผู้บริหารภาคสนาม / Operation Manager
→ ใช้ Dashboard AI คาดการณ์ปัญหาและประเมินทีมแบบ Real-time
สรุปคือ AI จะทำให้ “คนหนึ่งคน” ทำงานได้เท่ากับ “ทีมเล็ก ๆ ทั้งทีม”
ดังนั้นองค์กรจะต้องปรับรูปแบบจ้างงาน จากจำนวนคน → ไปสู่ “จ้างตามสมรรถนะและประสิทธิภาพที่ AI เสริมได้”
ตำแหน่งที่ “เสี่ยงสูง” ต่อการถูกแทนที่ (3–5 ปีข้างหน้า)
| ระดับ | ตำแหน่ง | ความเสี่ยง | แนวทางปรับตัว |
| พนักงานปฏิบัติการ | ธุรการ / คีย์ข้อมูล | 🔴 สูงมาก | เรียนรู้การใช้ RPA / Power Automate / Excel AI |
| พนักงานบริการลูกค้า | Call Center, Chat Support | 🔴 สูงมาก | ฝึก Soft Skill, Emotional Handling |
| เจ้าหน้าที่บัญชีขั้นต้น | ตรวจเอกสาร, ทำบัญชีเบื้องต้น | 🔴 สูง | ฝึกวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินเชิงลึก |
| เจ้าหน้าที่สรรหา | Screening / Scheduling | 🟠 ปานกลาง | ใช้ AI Recruitment Tools เป็น |
| เจ้าหน้าที่ขาย | Tele Sales | 🟠 ปานกลาง | พัฒนาเป็น Consultative Sales |
| นักเขียน / คอนเทนต์ | เขียนข่าว/บทความทั่วไป | 🟠 ปานกลาง | โฟกัส Storytelling / Branding / SEO |
| ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ | – | 🟢 ต่ำ | ใช้ AI วิเคราะห์แต่ต้องตัดสินใจเอง |
สิ่งที่ “คน” ยังเหนือกว่า AI
แม้ AI จะเก่งในเชิงตรรกะและความเร็ว แต่ยังขาด 4 ด้านสำคัญที่มนุษย์ได้เปรียบ:
- Empathy (ความเข้าใจความรู้สึกผู้อื่น)
- Ethics (จริยธรรมและการตัดสินใจทางศีลธรรม)
- Creativity (ความคิดสร้างสรรค์)
- Leadership (การชี้นำและสร้างแรงบันดาลใจ)
ดังนั้น ตำแหน่งงานที่ต้องใช้ “มนุษยธรรม + ความสัมพันธ์ + การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์” จะยังคงสำคัญ
แนวโน้มในอุตสาหกรรมบริการจัดหาพนักงาน (Outsource)
AI จะไม่ฆ่า Outsourcing — แต่จะ “เปลี่ยนโมเดลบริการ”:
- จาก Manpower Service → Tech-Enabled Outsourcing
- ใช้ระบบ AI Matching / Workforce Platform / Performance Dashboard
- วัด SLA จากคุณภาพและ Productivity มากกว่าจำนวนหัว
- บริษัท Outsource ที่ปรับใช้ AI ก่อน จะกลายเป็น “Strategic Partner” ขององค์กร
เกี่ยวกับเรา SO PEOPLE
เราคือ ผู้ให้บริการ Outsourcing Service ด้านการจัดหาบุคลากรมืออาชีพ ภายใต้
บริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO บริษัท Outsource ชั้นนำที่มีพาร์ทเนอร์ด้านเทคโนโลยีระดับโลก ใช้โมเดล Tech-enabled outsourcing solution เข้ามาพัฒนาธุรกิจให้มีประสิทธิภาพแบบครบวงจรหนึ่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์ไทย เรามีบริการที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการในการทำธุรกิจของคุณ ด้วยฐานข้อมูลผู้สมัครที่มีคุณภาพกว่า 300,000 รายบน database มีทักษความสามารถที่หลากหลาย พร้อมส่งมอบบุคลากรที่ใช่ให้กับธุรกิจของคุณ และ นอกจากนี้เรายังมี benefit อื่นๆที่พร้อมให้คุณได้มากว่าอาทิเช่น
- มีพนักงานพร้อมเริ่มงานภายใน 3 วัน
- มีการอบรมพัฒนาศัยภาพพนักงานในระหว่างสัญญา
- สามารถส่งคนทดแทนได้ กรณีพนักงานขาดงาน,มาสาย หรือ ลางานในกรณีต่างๆ
- มีเจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้าตลอดอายุสัญญา
- มีบริการที่ยืดหยุ่นตอบสนองต่อทุกการเปลี่ยนแปลงในการทำธุรกิจ
นอกจากนี้เรายังผสานเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาร่วมในการออกแบบการให้บริการ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็น
irecruit : ระบบจัดเก็บข้อมูลผู้สมัคร ที่สามารถจำแนก ทักษะความสามารถในด้านต่างๆ รวมไปถึงผลการทดสอบและการฝึกอบรมรายบุคคล ประมวลผลออกมาในรูปแบบของ Resume ช่วยให้เราสามารถหา “คนที่ใช่” ได้ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
TIKTRACK : แอปพลิเคชันระบบจัดการงานด้านบุคลากร ที่ครบจบในแอพเดียวเช่น การลงเวลา เข้า-ออกงาน การลางาน ตรวจเช็ควันหยุดต่างๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือ โดยเราได้ออกแบบตัวแอปพลิเคชัน นให้สามารถใช้งานได้ง่ายและสามารถเข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ (Realtime)
VMS : ระบบบริหารจัดการยานพาหนะ ทั้งส่วนบุคคลและส่วนกลาง เช่นระบบในการการจองรถ การติดตามสถานะต่างๆ การจัดการเอกสาร ภาษี พรบ. รวมไปถึงการแจ้งเตือนการซ่อมบำรุง
DASHBOARD : หน้าต่างแสดงข้อมูลสรุปผลการปฏิบัติงานของพนักงานแบบ (Realtime) ช่วยให้ลูกค้าสามารถวิเคาระห์ข้อมูลต่างๆได้ง่ายขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากขึ้น



Writer : Nilawan Pinsuwan
Digital and Performance Marketing. : SO-Siamrajathanee Plc.
ผู้รักในการเล่าเรื่องธุรกิจ Outsource และ HR ให้น่าสนใจยิ่งขึ้นผ่านบทความและ SEO Content มีประสบการณ์ดูแลด้าน Content Marketing มากกว่า 3 ปี เชื่อว่าการเล่าเรื่องที่ดีสามารถเพิ่มยอดขายและความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ได้เสมอ...
Follow : Linkedin - Nilawan Pinsuwan